เด็กๆที่เป็นกำพร้าจากโรคเอดส์ และเด็กเหล่านั้นติดเชื้อเอชไอวีด้วย ส่วนใหญ่จะมีชีวิตที่น่าสงสาร พวกเขาจะหาคนดูแล หรือให้ที่อยู่อาศัยได้ยาก และบางคนก็อาจจะถูกรังเกียจจากสังคม และ ชุมชนที่เคยอยู่ ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าส่วนใหญ่ก็ไม่อาจจะดูแลรับผิดชอบเรื่อง การดูแลรักษาชีวิตของเด็กๆ การให้ความรัก และการดูแลแบบครอบครัว การให้การศึกษา
การติดเชื้อเอชไอวีในเด็ก เป็นผลเสียร้ายแรงต่อร่างกาย แสดงอาการได้รวดเร็ว โดยเฉพาะเด็กเล็ก ทารกที่ไม่ได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวี กว่าครึ่งหนึ่งจะเสียชีวิตภายใน ๒ ปีแรก การใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวีแก่เด็กอย่างเหมาะสมสามารถช่วยให้ภูมิคุ้มกันของเด็กดีขึ้น เด็กจะมีสุขภาพแข็งแรง ในอดีตยังไม่มียาต้านไวรัสใช้กันอย่างแพร่หลาย ผู้ป่วยเด็กมักได้รับการรักษาที่ล่าช้า คือกว่าจะได้รับยาต้านไวรัส เด็กก็อยู่ในช่วงอายุ ๕ -๙ ปีแล้ว ซึ่งถือว่าช้าเกินไป ทำให้เด็กบางคนอาจป่วยหรือเสียชีวิตก่อนได้รับการรักษา
แม้การติดเชื้อเอชไอวีจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็สามารถรักษาเพื่อควบคุมอาการไว้ได้ หากเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี ได้รับยาต้านไวรัสอย่างเหมาะสมตั้งแต่วัยทารก ก็จะสามารถเจริญเติบโต มีพัฒนาการที่ดี มีสุขภาพแข็งแรงใกล้เคียงกับเด็กปกติ เรียนหนังสือได้ มีอนาคตที่ดีได้
ครอบครัวและชุมชน มีส่วนสำคัญในการดูแลเด็กที่ติดเชื้อ เอชไอวี หรือเด็กที่ได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อ ครอบครัวควรได้รับการสนับสนุนเพื่อให้สามารถอบรมเลี้ยงดูเด็กให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย รวมทั้งพ่อแม่ที่ติดเชื้อเอชไอวีก็ควรจะดูแลรักษาสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพื่อดูแลลูกที่ติดเชื้อในระยะยาวได้ และจะส่งผลที่ดีต่อการเจริญเติบโต พัฒนาการ และ ความมั่นคงในชีวิตของเด็ก ส่วนเด็กที่ครอบครัวไม่อบอุ่น จะมีความเสี่ยงต่อการถูกเอาเปรียบและถูกรังเกียจจากสังคมได้
รัฐบาล ชุมชน หน่วยงานต่างๆ ตลอดจนองค์กรการกุศล ควรมีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อ
เอชไอวีแก่ประชาชน รวมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยและเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวีให้ได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดการเกิดการติดเชื้อเอชไอวี