เด็กที่ติดเชื้อเอดส์ในไทยส่วนใหญ่ ได้รับเชื้อจากแม่ขณะตั้งครรภ์ ทำให้ในปัจจุบันมีเด็กที่ติดเชื้อประมาณ 7 แสนคนต่อปี ปัญหาคือเด็กเหล่านี้กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย ปัจจุบันมีการให้ยาต้านไวรัสเอชไอวีแก่หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ และในทารกแรกเกิด รวมทั้งการให้ทารกงดนมแม่ ทำให้มีอัตราการติดเชื้อต่ำลง จากที่เคยมีมากขึ้นในทุกปี
ประเทศไทยเคยได้รับการยกย่องว่า เป็นประเทศที่มีระบบตรวจโรคเอดส์ และให้ยาต้านไวรัสแก่ผู้เป็นแม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนประเทศอื่นๆ โดยส่วนใหญ่เด็กจะติดเชื้อในขณะอยู่ในครรภ์ หรือในระหว่างคลอด และอาจได้รับเชื้อจากนมมารดา หากทารกกินนมมารดาจะทำให้ติดเชื้อจากเลือดไปด้วย ทำให้ในช่วงหลังมีการคัดกรองนมที่นำมาบริจาคด้วย
ประเทศไทยจะเน้นการดูแลมารดาระหว่างตั้งครรภ์อย่างดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อในทารก และได้จัดสรรยาให้กับหญิงตั้งครรภ์ทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังแจกนมผงแก่เด็กทารกนาน 1 ปีอย่างเพียงพอทั่วประเทศ จึงทำให้ประเทศไทยได้รับการยกย่องเป็นตัวอย่างให้แก่ประเทศอื่นๆ และการตรวจเลือดสำหรับหญิงตั้งครรภ์ควรทำทุกราย คาดได้ว่าในอนาคตเด็กผู้ป่วยโรคเอดส์จะมีจำนวนลดน้อยลงอย่างแน่นอน
ปัจจุบันมีการพัฒนายาต้านไวรัสอยู่เสมอ เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ทำให้เด็กแข็งแรงเหมือนกับเด็กทั่วไป ยากที่ใช้ได้แก่ zidovudine ร่วมกับ lamivudine นำมารวมในเม็ดเดียวกัน และยังสามารถผลิตได้เอง ทำให้มีราคาถูก ผู้ป่วยสามารถเอื้อมถึง
การมีสุขภาพอนามัยที่ดี ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคซ้ำ เพราะด้วยภูมิป้องกันที่ต่ำ ทำให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ง่าย จึงควรให้เด็กมีสุขภาพอนามัยที่ดี โดยการรับประทานอาหารที่สะอาด รักษาสุขอนามัยทั่วไป เช่น อาบน้ำ แปรงฟัน ตัดเล็บ เป็นต้น นอกจากนี้ควรส่งเสริมให้เด็กออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือให้เด็กทำกิจกรรมก็ได้ และงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดออก ควรงดกีฬาที่เสี่ยงจนเกินไป
ควรฝึกระเบียบวินัยให้กับเด็กในการกินยาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เด็กสามารถปรับตัวในการกินยาให้ได้ เป็นต้องมีการฝึกสอนให้ผู้ปกครองทำได้อย่างถูกต้อง การกินยาให้ถูกต้องจะลดโอกาสที่เกิดเชื้อดื้อยาได้มาก ซึ่งวิธีการนี้ช่วยให้เด็กที่ติดเชื้อสามารถมีสุขภาพที่แข็งแรงได้